## ตลาดหุ้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป… เมื่อธนาคารกรุงเทพเปิดประตูสู่การลงทุนให้คุณ
สำหรับหลายคนที่สนใจอยากจะเริ่มต้นลงทุนในตลาดหุ้น แต่ยังรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไกลตัว มีขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อน หรือไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ข่าวดีคืออุปสรรคเหล่านี้กำลังถูกลดทอนลง ด้วยความพยายามของสถาบันการเงินอย่างธนาคารกรุงเทพ ที่ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อนักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะมือใหม่ ให้สามารถเข้าถึงตลาดทุนได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น บทความนี้จะพาไปสำรวจว่า ธนาคารกรุงเทพทำได้อย่างไรผ่านบริการแบบครบวงจรที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนยุคใหม่โดยเฉพาะ

ก้าวแรกสู่การเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยคือการมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งในอดีตอาจต้องติดต่อบริษัทหลักทรัพย์โดยตรง มีขั้นตอนการยื่นเอกสารที่ค่อนข้างซับซ้อน แต่ปัจจุบันนี้ ธนาคารกรุงเทพได้ร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของประเทศ ทำให้การเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กลายเป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยเฉพาะผ่านแอปพลิเคชัน Bangkok Bank Mobile Banking ซึ่งเป็นช่องทางที่ธนาคารกรุงเทพออกแบบมาให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานทุกคน
คุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการเปิดบัญชีหลักทรัพย์ผ่านโมบายแบงก์กิ้งของธนาคารกรุงเทพก็ไม่ซับซ้อนเกินไป เพียงเป็นคนไทยอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ของธนาคารกรุงเทพ (ที่เป็นชื่อบัญชีเดี่ยวเท่านั้น) สิ่งที่ทำให้การเปิดบัญชีบนแอปพลิเคชันสะดวกอย่างยิ่งคือ คุณไม่ต้องเตรียมเอกสารตัวจริง ไม่ต้องเดินทางไปสาขา หรือเสียบชิปบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตนเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากระบบมีการตรวจสอบข้อมูลและยืนยันตัวตนผ่านระบบดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย รวมถึงมีการใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Face Recognition) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความถูกต้องของข้อมูล ทำให้กระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่การกรอกข้อมูลส่วนตัว การทำแบบประเมินความเหมาะสมในการลงทุน (Suitability Test) ไปจนถึงการยืนยันตัวตน สามารถทำได้บนมือถือตั้งแต่ต้นจนจบ

หลังจากที่คุณดำเนินการตามขั้นตอนบนแอปพลิเคชันครบถ้วนแล้ว ก็เพียงรอผลอนุมัติ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบผ่านทางอีเมล พร้อมกับข้อมูล Username และ Password สำหรับเข้าระบบของ Settrade ซึ่งเป็นระบบตัวกลางในการซื้อขายหลักทรัพย์ จากนั้น คุณก็สามารถกำหนดรหัสผ่านและ PIN ของตัวเองเพื่อความปลอดภัย และหากต้องการเริ่มต้นลงทุนทันที ก็สามารถฝากเงินหลักประกันซื้อหลักทรัพย์เข้าพอร์ตผ่านบริการ E-ATS (Automated Transfer System) ที่เชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารกรุงเทพของคุณได้เลยทันที ทำให้การบริหารจัดการเงินทุนเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนนักลงทุนหน้าใหม่ ธนาคารกรุงเทพยังมอบสิทธิพิเศษเป็นคอร์สเรียนลงทุนออนไลน์ “เปิดประตูสู่การลงทุน ไปกับหลักทรัพย์บัวหลวง” มูลค่า 200 บาทให้ฟรี ถือเป็นการติดอาวุธความรู้เบื้องต้นก่อนลงสนามจริง (โปรโมชันนี้มีระยะเวลาถึง 30 ธันวาคม 2568) สำหรับใครที่ยังไม่สะดวกหรือไม่คุ้นเคยกับการทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชัน ก็ยังมีอีกช่องทางคือการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่สาขาของธนาคารกรุงเทพได้ทุกสาขทั่วประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
นอกจากการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทั่วไปแล้ว ธนาคารกรุงเทพยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้าถึงการลงทุนที่น่าสนใจอื่นๆ อย่างเช่น การจองซื้อหุ้น IPO (Initial Public Offering) ซึ่งเป็นการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตัวอย่างที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำสำหรับนักลงทุนจำนวนมาก คือการจองซื้อหุ้นสามัญของ บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR เมื่อช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ปี 2564 ซึ่งธนาคารกรุงเทพได้เป็นหนึ่งในช่องทางการจองซื้อที่อำนวยความสะดวกอย่างมาก
ในช่วงเวลานั้น นักลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้น OR สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านฟีเจอร์ “จองซื้อหลักทรัพย์” บนแอปพลิเคชัน Bangkok Bank Mobile Banking หรือจะเดินทางไปจองซื้อที่สาขาของธนาคารกรุงเทพใกล้บ้านก็ได้เช่นกัน โดยมีระยะเวลาการจองซื้อที่ชัดเจน ในกรณีของหุ้น OR ราคาเสนอขายอยู่ที่ 18 บาทต่อหุ้น กำหนดจำนวนจองซื้อขั้นต่ำที่ 300 หุ้น ซึ่งคิดเป็นเงิน 5,400 บาท และสามารถจองเพิ่มได้เป็นทวีคูณของ 100 หุ้น โดยไม่มีจำนวนสูงสุดจำกัดในการจองซื้อผ่านธนาคารกรุงเทพ วิธีการชำระเงินก็สะดวกสบาย หากคุณมีบัญชีธนาคารกรุงเทพอยู่แล้ว ระบบจะหักเงินจากบัญชีโดยตรง หรือหากไม่มีบัญชีธนาคารกรุงเทพ ก็ยังสามารถชำระเงินผ่าน QR Code Cross Bank Bill Payment ที่สาขาของธนาคารกรุงเทพ หรือแม้แต่ชำระที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven ทั่วประเทศได้อีกด้วย ก่อนการจองซื้อ นักลงทุนจำเป็นต้องทำแบบประเมินความเหมาะสมในการลงทุน (Suitability Test) ตามข้อกำหนด ซึ่งสามารถทำผ่านช่องทางต่างๆ ที่ธนาคารกำหนดได้เช่นกัน หลังจากปิดการจองซื้อ ระบบคอมพิวเตอร์ของ SETTRADE จะใช้วิธีการจัดสรรหุ้นแบบ ‘Small Lot First’ ซึ่งเป็นหลักการที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้จองซื้อขั้นต่ำมีโอกาสได้รับการจัดสรรหุ้นขั้นต่ำอย่างเป็นธรรม ก่อนจะจัดสรรจำนวนที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ จนกว่าหุ้นจะหมด หรือเท่ากับจำนวนที่จองเข้ามา โดยมีการประกาศผลการจัดสรรหุ้นในวันเวลาที่กำหนด ประสบการณ์การจองซื้อหุ้น OR สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของแพลตฟอร์มธนาคารกรุงเทพในการเชื่อมต่อนักลงทุนรายย่อยเข้ากับโอกาสในการลงทุนใหญ่ๆ ในตลาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงง่าย

เมื่อบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของคุณพร้อมใช้งานแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมตัวเข้าสู่การลงทุนจริง เริ่มต้นด้วยการตั้งค่าความปลอดภัย เช่น การเปลี่ยนรหัสผ่านและตั้ง PIN ของระบบซื้อขายหลักทรัพย์ที่ให้บริการโดย Settrade จากนั้นจึงติดตั้งโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันสำหรับซื้อขายหุ้น เช่น Settrade Streaming บนสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการส่งคำสั่งซื้อและขายหุ้น การโอนเงินเข้าพอร์ตลงทุนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพราะธนาคารกรุงเทพมีบริการ E-ATS ที่เชื่อมต่อบัญชีธนาคารของคุณเข้ากับพอร์ตหลักทรัพย์ ทำให้การฝากเงินเข้าพอร์ตเป็นไปอย่างอัตโนมัติและรวดเร็วตามคำสั่งของคุณ และสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่คุ้นเคยกับการส่งคำสั่งซื้อขาย หรือต้องการคำแนะนำในการวางกลยุทธ์การลงทุนเบื้องต้น เช่น การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือ DCA (Dollar-Cost Averaging) ซึ่งเป็นการทยอยลงทุนด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันเป็นงวดๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา หรือการลงทุนแบบปรับมูลค่า หรือ VA (Value Averaging) ทางหลักทรัพย์บัวหลวงก็มีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำและคอยช่วยเหลือ ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องงมหาทางเองทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดที่นักลงทุนทุกคนต้องตระหนักอยู่เสมอ คือ “การลงทุนมีความเสี่ยง” คำเตือนนี้ไม่ใช่เพียงข้อความทั่วไป แต่เป็นหัวใจสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง การตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ใดๆ หรือกองทุนรวม ไม่เหมือนกับการนำเงินไปฝากในบัญชีธนาคารที่ได้รับดอกเบี้ยและเงินต้นยังคงอยู่ครบถ้วน แต่การลงทุนมีความเป็นไปได้ที่ผู้ลงทุนจะสูญเสียเงินลงทุนไปบางส่วนหรือทั้งหมดได้ ผลการดำเนินงานในอดีตที่เคยดี ไม่สามารถเป็นเครื่องยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคตได้เสมอไป ตลาดทุนมีความผันผวนและได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลากหลาย ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง หรือปัจจัยเฉพาะของบริษัทหรือสินทรัพย์ที่ลงทุน
สำหรับการลงทุนในกองทุนรวมนั้น มีความเสี่ยงเฉพาะเจาะจงที่คุณควรทราบ เช่น ความเสี่ยงที่อาจมีการรับชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนล่าช้าเกินกว่ากำหนดหากเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติในตลาด ความเสี่ยงที่อาจไม่สามารถขายคืนได้หากกองทุนนั้นๆ ไม่สามารถดำรงสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องเพียงพอ นอกจากนี้ คุณควรเข้าใจว่า กองทุนรวมเป็นนิติบุคคลที่แยกต่างหากจากบริษัทจัดการ การขาดทุนจากการลงทุนในกองทุนรวมจะไม่ได้รับการชดเชยจากบริษัทจัดการ และบริษัทจัดการเองก็มีหน้าที่ต้องสร้างระบบป้องกันการขัดแย้งทางผลประโยชน์เพื่อไม่ให้ลงทุนหนักไปในด้านที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองมากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น หากกองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรม สินทรัพย์ หรือภูมิภาคใดมากเป็นพิเศษ อาจมีความเสี่ยงมากกว่ากองทุนที่มีการกระจายการลงทุนที่ดีกว่า รวมถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างมากหากกองทุนมีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) ซึ่งมีความเหมาะสมกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงเท่านั้น
สำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF ซึ่งปัจจุบันไม่มีการเสนอขายใหม่แล้ว แต่ยังมีผู้ถือครองเดิมอยู่) มีเงื่อนไขพิเศษและข้อจำกัดในการถือครองที่เข้มงวด เช่น ไม่สามารถโอน จำหน่าย จำนำ หรือใช้เป็นหลักประกันได้ และที่สำคัญคือ หากไม่ปฏิบัติตามระยะเวลาและหลักเกณฑ์การถือครองที่กำหนดไว้ อาจทำให้ถูกเรียกคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับทั้งหมด พร้อมทั้งอาจถูกเรียกเก็บเงินเพิ่มและค่าปรับตามกฎหมายได้
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นหุ้น กองทุนรวม หรืออื่นๆ ที่นำเสนอผ่านช่องทางของธนาคารกรุงเทพ หรือช่องทางอื่นๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจลักษณะของผลิตภัณฑ์ เงื่อนไข รายละเอียดในหนังสือชี้ชวน และความเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบคอบและถี่ถ้วน หรือขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน เพื่อให้การตัดสินใจลงทุนของคุณอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ครบถ้วนและความเข้าใจที่ถูกต้อง
โดยสรุปแล้ว ธนาคารกรุงเทพได้นำเสนอบริการที่ช่วยให้นักลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น สามารถเข้าถึงตลาดหุ้นไทยได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้นอย่างแท้จริง ด้วยการบูรณาการบริการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และการจองซื้อหุ้น IPO เข้าไว้ในช่องทางดิจิทัลที่คุ้นเคยอย่างโมบายแบงก์กิ้ง ทำให้กระบวนการต่างๆ ตั้งแต่การเปิดบัญชี การโอนเงิน ไปจนถึงการส่งคำสั่งซื้อขาย เป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญจากหลักทรัพย์บัวหลวงคอยให้คำแนะนำและสนับสนุน ถือเป็นการเปิดประตูสู่โลกการลงทุนที่ช่วยลดความยุ่งยากและอุปสรรคสำหรับผู้เริ่มต้นได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม โอกาสในการสร้างผลตอบแทนมักมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ การลงทุนคือการเดินทางที่ต้องศึกษาเรียนรู้ วางแผน และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ขอให้นักลงทุนทุกคนศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจทุกครั้ง เพื่อให้การลงทุนของคุณเป็นไปอย่างรอบคอบและบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้.