## เปิดพอร์ตลงทุนแดนเหงียน: ทำไมใครๆ ก็หันมอง “หุ้นเวียดนาม

เพื่อนร่วมงานเดินมายื่นโทรศัพท์ให้ดูพลางชวนคุย “เนี่ย… กองทุนเวียดนามที่ลงไว้ กำไรดีกว่าฝากแบงก์อีก” คำพูดติดตลกแต่แฝงความจริงนี้ น่าจะสะท้อนความสนใจที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในตลาด หุ้นเวียดนาม ตลาดที่เคยอยู่ในมุมมองของนักลงทุนเฉพาะกลุ่ม กำลังก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นในสายตาหลายๆ คน แล้วอะไรคือเบื้องหลังความน่าสนใจนี้? บทความนี้จะพาไปสำรวจเจาะลึก พร้อมมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญที่ประมวลผลมาอย่างละเอียด

ลองนึกภาพเงินเก็บที่เราออมมาทั้งชีวิต ส่วนใหญ่อยู่ในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยน้อยนิด จนแทบไม่ทันเงินเฟ้อ ในขณะที่ค่าครองชีพก็พุ่งขึ้นไม่หยุด แล้วถ้ามีทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจในประเทศเพื่อนบ้านที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดล่ะ? นั่นคือสิ่งที่นักลงทุนหลายคนเริ่มมองเห็นในประเทศเวียดนาม

**เศรษฐกิจที่พุ่งทะยาน: เครื่องยนต์สำคัญที่ขับเคลื่อนตลาด**

หัวใจสำคัญที่ทำให้ หุ้นเวียดนาม ดูน่าสนใจอย่างยิ่ง คือพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมีพลวัต ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นภาพที่ชัดเจน:

1. **การบริโภคภายในประเทศที่เติบโตสูง:** เหมือนเราเดินไปตลาดแล้วเห็นร้านขายของคึกคัก นั่นแหละคือสัญญาณการบริโภคที่แข็งแรง ตัวเลขยอดค้าปลีกล่าสุด (พฤษภาคม 2567) เติบโตถึง 9.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวเวียดนามที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากชนชั้นกลางที่ขยายตัวและมีรายได้สูงขึ้น การบริโภคที่แข็งแกร่งนี้ถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจ

2. **ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวเกินคาด:** หลังยุคโควิด การท่องเที่ยวเวียดนามกลับมาผงาดอีกครั้ง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2567 มีแนวโน้มสูงกว่าช่วงก่อนโควิดเสียอีก ลองนึกภาพนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาใช้จ่ายในประเทศ นี่คือแหล่งรายได้สำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร หรือภาคบริการอื่นๆ

3. **การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ยังคงไหลเข้าต่อเนื่อง:** เวียดนามยังคงเป็นเป้าหมายการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับบริษัทต่างชาติจำนวนมาก ด้วยค่าแรงที่ยังแข่งขันได้ นโยบายส่งเสริมการลงทุน และที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ FDI ที่ไหลเข้ามาไม่เพียงสร้างงาน แต่ยังนำมาซึ่งเทคโนโลยี Know-how และเพิ่มศักยภาพการผลิตของประเทศ การลงทุนเหล่านี้มักจะส่งผลดีต่อบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ด้วย

**ตลาดทุนที่ไม่หยุดนิ่ง: ก้าวสู่มาตรฐานสากล**

นอกจากปัจจัยทางเศรษฐกิจแล้ว ตลาดทุนของเวียดนามเองก็กำลังมีการพัฒนาครั้งสำคัญ ข้อมูลวิเคราะห์ชี้ให้เห็นความพยายามในการยกระดับตลาดเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น:

* **การนำระบบซื้อขายใหม่มาใช้:** มีการนำระบบซื้อขายจากประเทศเกาหลีใต้เข้ามาใช้ ซึ่งมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพมากขึ้น ช่วยเพิ่มความสะดวกและความรวดเร็วในการซื้อขาย
* **การยกเลิกข้อกำหนดการวางเงินล่วงหน้า (Prepayment):** เดิมนักลงทุนต่างชาติต้องวางเงินสดเต็มจำนวนก่อนส่งคำสั่งซื้อ ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญ ตอนนี้ข้อกำหนดนี้กำลังจะถูกยกเลิกไป ทำให้การลงทุนคล่องตัวขึ้นมาก การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทางการเวียดนามที่จะพัฒนาตลาดให้เข้าใกล้มาตรฐานตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกอัปเกรดสถานะตลาดในอนาคต และดึงดูดเงินทุนก้อนใหญ่จากกองทุนต่างประเทศได้

**มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ: โอกาสที่มาพร้อมความท้าทาย**

นักวิเคราะห์มองว่า ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและการพัฒนาตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาด หุ้นเวียดนาม ยังคงมีศักยภาพในการเติบโต แม้ว่าตั้งแต่ต้นปี (ปี 2567) ดัชนี VN Index จะให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นถึง 11.7% ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับหลายๆ ตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก แต่ผู้เชี่ยวชาญยังคงเชื่อว่ายังมีโอกาสในการทำกำไรอยู่

อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน หุ้นเวียดนาม ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความเสี่ยง เหมือนกับการเดินลงทะเล แม้ชายหาดจะสวยงาม แต่ก็ต้องระวังคลื่นลมที่อาจมาถึงได้ ความท้าทายที่นักลงทุนควรทราบได้แก่:

* **ความผันผวนของตลาด:** ตลาดเวียดนามยังถือเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง ราคาหุ้นอาจปรับขึ้นลงรวดเร็วได้
* **ข้อจำกัดสำหรับนักลงทุนต่างชาติ:** แม้จะมีการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ แต่หุ้นบางตัวหรือบางอุตสาหกรรมอาจยังมีข้อจำกัดเรื่องสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างชาติ (Foreign Ownership Limit)
* **ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์:** กฎระเบียบในตลาดเกิดใหม่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ผู้ลงทุนควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

**อยากลงทุน “หุ้นเวียดนาม” ต้องทำอย่างไร?**

สำหรับนักลงทุนชาวไทยที่สนใจลงทุนใน หุ้นเวียดนาม มีช่องทางหลากหลายให้เลือก ไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด เช่น:

1. **ลงทุนผ่านกองทุนรวม:** เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยดูแลและกระจายความเสี่ยงให้
2. **ลงทุนโดยตรงผ่านบริษัทหลักทรัพย์ไทย:** บางบริษัทหลักทรัพย์ในไทยมีบริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ รวมถึง หุ้นเวียดนาม ด้วย
3. **ลงทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ:** เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ต่างชาติที่มีบริการซื้อขายหุ้นเวียดนามโดยตรง

ส่วนการเลือกหุ้นรายตัว หากลองมองหา “ดาวเด่น” ในตลาดเวียดนาม ก็มีหุ้นหลายตัวที่นักวิเคราะห์จับตาดู ยกตัวอย่างเช่น หุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ หรือหุ้นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เปรียบเหมือนหุ้นเหล่านี้เป็น “นักเรียนดีเด่น” ในห้องเรียนตลาดหุ้น มีพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่งและแนวโน้มการเติบโตที่ดี แต่ก็ไม่ใช่ทุกตัวที่จะเหมาะสมกับทุกคน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของแต่ละบริษัทอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ

**ข้อคิดก่อนตัดสินใจ: ก้าวแรกที่มั่นคง**

การลงทุนใน หุ้นเวียดนาม เป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นในยามที่ตลาดอื่นๆ อาจให้ผลตอบแทนไม่สูงนัก แต่เหมือนคำเตือนจากผู้ใหญ่ที่ว่า “ก่อนจะทำอะไร ต้องศึกษาให้รอบคอบ” การลงทุนทุกรูปแบบมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นตลาดในประเทศหรือต่างประเทศ การลงทุนในตลาดเกิดใหม่เช่นเวียดนามอาจมีความเสี่ยงเฉพาะตัวที่ต้องพิจารณา

ผู้ที่สนใจอาจเริ่มต้นจากการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ทำความเข้าใจภาพรวมเศรษฐกิจ นโยบายรัฐบาล และลักษณะเฉพาะของตลาดหุ้นเวียดนาม อาจเริ่มลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยๆ หรือพิจารณาเปิด “บัญชีสังเกตการณ์” เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดและหุ้นที่สนใจก่อนตัดสินใจลงทุนจริงจัง

สรุปแล้ว หุ้นเวียดนาม กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่น่าจับตา ด้วยเครื่องยนต์เศรษฐกิจที่กำลังทำงานเต็มสูบและการพัฒนาตลาดทุนอย่างไม่หยุดยั้ง โอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจมีอยู่จริง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมตัวให้พร้อม ศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน และลงทุนอย่างมีสติ เพื่อให้การเดินทางบนเส้นทางการลงทุนในแดนเหงียนเป็นการเดินทางที่ราบรื่นและสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืน.