## หุ้นธนาคารไทย: ช่วงเวลาที่น่าจับตา… แล้ว “ซื้อ หุ้น ธนาคาร ไหน ดี” ล่ะ?

พักนี้ เดินไปไหนมาไหน หรือไถฟีดข่าวดู ก็มักจะได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ “หุ้นธนาคาร” บ่อยขึ้นเป็นพิเศษครับ ไม่ว่าจะเป็นข่าวผลประกอบการที่ดูดี มีคนพูดถึงเรื่องเงินปันผล หรือแม้แต่เพื่อนๆ รอบตัวที่เริ่มสนใจลงทุน ก็มักจะวนมาถามคำถามยอดฮิตว่า “เฮ้ย ช่วงนี้ ซื้อ หุ้น ธนาคาร ไหน ดี วะ?” คำถามนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว หรือมีปัจจัยบวกบางอย่างเข้ามา หุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบเศรษฐกิจก็มักจะถูกจับตามองเป็นอันดับต้นๆ เสมอ

โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมา ตัวเลขผลประกอบการของบรรดาธนาคารพาณิชย์ไทยหลายแห่งต้องบอกว่า “ไม่ธรรมดา” เลยครับ มีรายงานว่าบางแห่งสามารถทำกำไรได้ในระดับที่เรียกว่า “สูงสุดเป็นประวัติการณ์” เลยด้วยซ้ำ นี่เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้หุ้นกลุ่มนี้กลับมาอยู่ในสายตาของนักลงทุนอีกครั้ง ทั้งนักลงทุนรายย่อยอย่างเราๆ ไปจนถึงกองทุนใหญ่ๆ เลยทีเดียว

แต่คำถามต่อมาคือ ทำไมจู่ๆ ธนาคารถึงทำกำไรได้ดีขนาดนี้? อะไรคือปัจจัยขับเคลื่อนเบื้องหลัง? จากการวิเคราะห์เชิงลึกที่รวบรวมข้อมูลและมุมมองต่างๆ มานั้น สามารถสรุปปัจจัยสำคัญๆ ได้หลายข้อครับ ข้อแรกที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ เรื่องของอัตราดอกเบี้ย ครับ เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อและดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจ มันส่งผลโดยตรงต่อ “ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ” หรือที่เรียกกันว่า NIM (Net Interest Margin) ซึ่งเปรียบง่ายๆ ก็คือ กำไรขั้นต้นที่ธนาคารได้จากการปล่อยกู้ หักลบด้วยต้นทุนทางการเงินต่างๆ เมื่ออัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ธนาคารมักจะสามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ได้เร็วกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ทำให้ NIM กว้างขึ้น และนั่นหมายถึงกำไรที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วยครับ

ปัจจัยที่สองคือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้จะยังไม่เต็มที่ แต่เมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมา ทั้งการบริโภค การท่องเที่ยว และการลงทุนของภาคธุรกิจ ก็ย่อมส่งผลดีต่อธุรกิจธนาคารครับ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยสินเชื่อใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หรือแม้แต่คุณภาพสินเชื่อที่อาจจะเริ่มดีขึ้นบ้าง ทำให้ธนาคารตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญลดลง ซึ่งการลดสำรองฯ นี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ทำให้กำไรดูดีขึ้นในงวดบัญชีนั้นๆ ครับ

ทีนี้ พอเข้าใจภาพใหญ่ที่ทำให้หุ้นธนาคารดูน่าสนใจแล้ว คำถามที่วนกลับมาก็คือ “แล้วจะ ซื้อ หุ้น ธนาคาร ไหน ดี ล่ะ ในเมื่อมีตั้งหลายแห่ง?” ตรงนี้แหละครับที่เป็นหัวใจสำคัญ เพราะถึงแม้ภาพรวมกลุ่มจะดูดี แต่ธนาคารแต่ละแห่งก็มีจุดเด่น จุดด้อย และความเสี่ยงที่แตกต่างกันไปครับ การวิเคราะห์เชิงลึกชี้ให้เห็นว่า การเลือกหุ้นธนาคารไม่ควรมองแค่ตัวเลขกำไรล่าสุดเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองให้ลึกไปถึงโครงสร้างธุรกิจ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และทิศทางการดำเนินงานในอนาคตของธนาคารนั้นๆ ด้วยครับ

ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารบางแห่งอาจจะแข็งแกร่งมากในกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ หรือมีฐานลูกค้าองค์กรที่มั่นคงมาอย่างยาวนาน ซึ่งมักจะมีความเสี่ยงด้านเครดิตที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้ผลประกอบการมีความสม่ำเสมอและได้รับผลกระทบจากความผันผวนทางเศรษฐกิจไม่มากนัก ขณะที่ธนาคารอีกแห่งอาจจะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้ารายย่อย หรือกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ซึ่งกลุ่มนี้อาจจะมีความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจมากกว่า แต่ก็อาจจะมีโอกาสในการเติบโตของสินเชื่อสูงกว่าหากเศรษฐกิจขยายตัวได้ดี หรือบางธนาคารอาจจะโดดเด่นเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการ (Digital Banking) เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเทรนด์สำคัญในระยะยาว

ดังนั้น เวลาจะตัดสินใจว่า “ซื้อ หุ้น ธนาคาร ไหน ดี” นักลงทุนควรพิจารณาจากหลายๆ มุมครับ ไม่ใช่แค่ดูว่าธนาคารไหนกำไรโตเยอะสุดในไตรมาสล่าสุด แต่ควรมองไปถึง:

1. คุณภาพสินทรัพย์ (Asset Quality): ดูว่ามีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loans – NPL) มากน้อยแค่ไหน และธนาคารมีการบริหารจัดการ NPL ได้ดีเพียงใด เพราะหนี้เสียคือต้นทุนที่กัดกร่อนกำไร
2. ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน (Operational Efficiency): ดูว่าธนาคารสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้ดีแค่ไหน เช่น สัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ (Cost-to-Income Ratio) ที่ต่ำมักจะสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
3. ความแข็งแกร่งด้านเงินกองทุน (Capital Adequacy): ดูว่าธนาคารมีเงินกองทุนมากพอที่จะรองรับความเสี่ยงต่างๆ ได้หรือไม่ ซึ่งเป็นมาตรการที่ ธปท. กำหนดและเป็นสัญญาณความมั่นคงของธนาคาร
4. ทิศทางธุรกิจในอนาคต: ธนาคารมีแผนธุรกิจอย่างไร เช่น การขยายไปยังธุรกิจใหม่ๆ การพัฒนาช่องทางดิจิทัล หรือการบริหารความเสี่ยงในยุคที่โลกเปลี่ยนเร็ว

นอกจากนี้ การวิเคราะห์จากบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ก็เป็นประโยชน์ครับ เพราะพวกเขาจะให้มุมมองที่ละเอียด ทั้งการประเมินมูลค่าที่เหมาะสม (Target Price) หรือคำแนะนำในการลงทุน (Rating) ซึ่งมักจะมาพร้อมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของแต่ละธนาคาร อย่างไรก็ตาม ต้องจำไว้ว่ามุมมองเหล่านี้ก็เป็นเพียงการคาดการณ์ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ

การลงทุนในหุ้นธนาคารก็เหมือนกับการลงทุนในหุ้นกลุ่มอื่นๆ ครับ ไม่ควร “ใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว” หรือลงทุนในหุ้นธนาคารเพียงแห่งเดียว การกระจายความเสี่ยง (Diversification) โดยการเลือกลงทุนในหุ้นธนาคารที่มีจุดเด่นแตกต่างกัน หรือกระจายการลงทุนไปยังหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกันมากนัก ก็เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้ครับ

สรุปแล้ว หุ้นกลุ่มธนาคารไทยในช่วงเวลานี้ถือเป็นกลุ่มที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง จากปัจจัยสนับสนุนเรื่องอัตราดอกเบี้ยและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่การจะตอบคำถามว่า “ซื้อ หุ้น ธนาคาร ไหน ดี” นั้น ไม่มีคำตอบสำเร็จรูปที่ตายตัวสำหรับทุกคนครับ มันขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนแต่ละคนมองหาอะไรจากการลงทุน อยากได้หุ้นที่มั่นคง จ่ายปันผลสม่ำเสมอ หรืออยากได้หุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงกว่า?

สิ่งสำคัญที่สุดคือ การทำการบ้าน (Do Your Homework) ครับ ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทำความเข้าใจธุรกิจของธนาคารที่เราสนใจ ประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตัวเอง และถ้ายังไม่มั่นใจ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน หรือนักวางแผนทางการเงิน ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีมากๆ ครับ เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอครับ การเห็นตัวเลขกำไรที่สวยงามเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่เบื้องหลังตัวเลขเหล่านั้นต่างหากคือสิ่งที่เราต้องค้นหาให้เจอ เพื่อการตัดสินใจลงทุนอย่างมีคุณภาพในท้ายที่สุด.